ฝากประจำดอกเบี้ยสูง

ฝากประจำดอกเบี้ยสูง กับอัตราดอกเบี้ยตามระยะเวลาฝาก

0 Comments

บัญชีเงินฝากที่ให้ผลตอบแทนจากดอกเบี้ยได้ดี คือ บัญชีฝากประจำดอกเบี้ยสูง ที่ยิ่งฝากนานยิ่งได้ผลตอบแทนมาก ถึงแม้จะมีสภาพคล่องต่ำแต่เป็นผลดีต่อการพักเงินในระยะกลางและระยะยาว ด้วยอัตราของดอกเบี้ยที่คงที่ จึงช่วยรักษาเงินต้นที่ตั้งใจจะนำไปลงทุนไว้ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าใครก็สามารถออมเงินในบัญชีฝากประจำได้ ทั้งเจ้าของธุรกิจ พนักงานประจำ ฟรีแลนซ์ และอาชีพอื่น ๆ และเนื่องจากผลตอบแทนที่จะได้รับจากบัญชีฝากประจำมีปัจจัยสำคัญคือ ระยะเวลาฝาก ผู้สนใจฝากเงินในบัญชีฝากประจำทุกคนจึงควรทำความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างอัตราดอกเบี้ยกับระยะเวลาการฝากเอาไว้ 

ฝากประจำดอกเบี้ยสูง มีวิธีคิดดอกเบี้ยอย่างไร

อัตราดอกเบี้ยเงินฝากอาจมีหลักการคิดคำนวณที่ซับซ้อน เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่เรามองไม่เห็น ซึ่งปัจจัยต่าง ๆ ก็ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของธนาคารไปด้วย ทำให้นโยบายการออกดอกเบี้ยของแต่ละธนาคารแตกต่างกันไป ทั้งนี้ หลักการคำนวณดอกเบี้ยเงินฝากทุกคนสามารถคำนวณเองได้ โดยเฉพาะการฝากประจำดอกเบี้ยสูงยิ่งเป็นเรื่องง่าย เพราะดอกเบี้ยที่จะได้รับมีอัตราคงที่ ไม่เปลี่ยนแปลงตามระยะเวลา โดยมีหลักการคำนวณดังนี้

ดอกเบี้ยของงวด = (เงินต้น x อัตราดอกเบี้ยหลังหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% x จำนวนวันในงวด) ÷ จำนวนวันของทั้งปี

ตัวอย่าง: เปิดบัญชีฝากประจำดอกเบี้ยสูงระยะเวลาฝาก 1 ปี (365 วัน) ฝากเงินต้นครั้งแรกจำนวน 1 ล้านบาท ในวันที่ 1 มกราคม อัตราดอกเบี้ย 1.5 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ดังนั้นอัตราดอกเบี้ยจริงที่จะได้รับหลังหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% แล้ว จะอยู่ที่ 1.275 ต่อปี 

ดอกเบี้ยในงวด = (1,000,000 x 1.275% x 365) / 365 = 12,750 บาท

หากครบกำหนดฝากแล้วยังไม่มีการถอนออก ดอกเบี้ยที่ได้รับจะทบต้นไปเรื่อย ๆ ตามระยะเวลาฝากอีกด้วย ทั้งนี้คุณยังสามารถเลือกฝากประจำแบบปลอดภาษีได้ โดยต้องทำความเข้าใจเงื่อนไขการเปิดบัญชีประกอบการตัดสินใจก่อน

ฝากประจำดอกเบี้ยสูง

ระยะเวลาต่าง ๆ ของการฝากประจำดอกเบี้ยสูง เลือกได้ตามใจ

โดยทั่วไปแล้วระยะเวลาของบัญชีฝากประจำดอกเบี้ยสูงจะมีกำหนดเป็นมาตรฐานเหมือนกัน เริ่มตั้งแต่ขั้นต่ำที่สุดด้วยระยะเวลาฝาก 3 เดือน ไปจนถึงระยะเวลาฝากสูงสุด 36 เดือน และบางธนาคารอาจมีบัญชีเงินฝากประจำที่ระยะเวลาฝากสูงสุดถึง 60 เดือนเลยทีเดียว การเลือกฝากเงินหรือพักเงินโดยการฝากประจำจึงต้องพิจารณาตามความเหมาะสมเป็นรายบุคคลไป

  • ระยะเวลาฝาก 3-6 เดือน

การฝากประจำในระยะสั้นเป็นเวลา 3-6 เดือน เหมาะสำหรับผู้ที่มีเป้าหมายการออมระยะสั้น และผู้ที่ต้องการพักเงินชั่วคราวก่อนนำไปลงทุน โดยอาจพิจารณาแล้วว่าสามารถรอจังหวะการลงทุนที่ดีได้ในช่วงไม่เกิน 6 เดือน ถึง 1 ปี ถึงแม้ดอกเบี้ยที่จะได้รับอาจไม่สูงเท่ากับการฝากประจำระยะยาว แต่ยังถือเป็นแหล่งพักเงินระยะสั้นที่รักษาเงินต้นไว้ได้ดี

  • ระยะเวลาฝาก 12-36 เดือน

ระยะเวลาฝาก 1-3 ปี เป็นการฝากประจำดอกเบี้ยสูงยอดนิยม เนื่องจากเป็นระยะเวลาที่ไม่สั้นและไม่นานจนเกินไป เหมาะกับการฝากเพื่อเป็นเป้าหมายการออมระยะปานกลาง หรือเป็นการพักเงินเพื่อรอให้เงินก้อนนี้เติบโตในระยะหนึ่งก่อนนำไปลงทุน อย่างเช่น หากสนใจลงทุนในหุ้นของบริษัทสตาร์ทอัพที่น่าสนใจ อาจจะต้องมีระยะเวลาในการเฝ้าดูแนวโน้มผลประกอบการ ตั้งแต่ 1-3 ปี ถือเป็นระยะเวลาที่พอดี ไม่นานเกินไป จึงนำเงินที่จะลงทุนมาพักไว้กับเงินฝากประจำก่อน

  • ระยะเวลาฝากมากกว่า 36 เดือนขึ้นไป

หากต้องการฝากประจำ หรือพักเงินเป็นเวลามากกว่า 3 ปีขึ้นไป ถือเป็นการฝากระยะยาวที่เหมาะกับการใช้เป็นแหล่งเงินเย็นมากกว่าการออมเพื่อพักการลงทุนเก็งกำไร ด้วยปัจจัยที่ว่า การฝากประจำมีสภาพคล่องต่ำกว่าการฝากเงินรูปแบบอื่น ๆ อยู่แล้ว ดังนั้นการฝากประจำตั้งแต่ 36 เดือนขึ้นไป จึงเหมาะกับการเก็บออมเป็นเงินต้นสำหรับลงทุนในอนาคต สำหรับเตรียมความพร้อมที่จะลงทุนทำธรุกิจเอง หรือออมเพื่อเป้าหมายระยะยาว พร้อมกับแผนการจัดการภาษีส่วนบุคคลก็สามารถทำได้นอกจากการฝากประจำดอกเบี้ยสูงแล้ว อย่าลืมมองหาแหล่งออมเงินหรือแหล่งพักเงินอื่น ๆ ที่ให้ดอกเบี้ยสูงร่วมด้วย อาจเป็นการเพิ่มช่องทางที่มีสภาพคล่องมากขึ้น หรือกระจายไปยังสินทรัพย์ความเสี่ยงสูงขึ้นแต่ยังอยู่ในระดับต่ำถึงปานกลาง ที่แม้จะมีความเสี่ยงมากขึ้นกว่าการฝากประจำ แต่ก็มีความเสี่ยงต่ำกว่าการลงทุนในตลาดหุ้นหรือสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง ที่มองแล้วยังไม่น่าลงทุนในตอนนี้ ถือเป็นวิธีบริหารเงินต้นที่ดีอย่างหนึ่งเพื่อผลตอบแทนที่ดีกว่า

Related Posts

ส่งผลไม้ทางไหนดี

ส่งผลไม้ทางไหนดี ที่จะให้ความปลอดภัยได้มากกว่าเดิม

0 Comments

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการส่งสินค้าในปัจจุบัน ทุกคนจะส่งสินค้ากันอย่างหลากหลาย แต่การส่งผลไม้ก็ยังเป็นหนึ่งในข้อสงสัยที่ว่า จะส่งผลไม้ทางไหนดี เพราะผลไม้จะเป็นสินค้าที่มีความอ่อนไหวเป็นอย่างมาก หากใช้เวลาในการขนส่งนานก็อาจจะเกิดความเน่าเสียหายได้ง่าย หรือหากเราเลือกใช้การขนส่งที่ไม่เหมาะสม ก็อาจจะทำให้ผลไม้ได้รับความเสียหายเช่นเดียวกัน ดังนั้นหากใครที่ต้องการส่งผลไม้ไปให้ลูกค้าที่อยู่ไกล มาดูกันเลยว่าเลือกขนส่งประเภทไหน…